Monday, July 9, 2012

จะซื้อหรือขายหุ้น ต้นทุนไม่สำคัญ

ทุกๆครั้งที่ได้ดูรายการวิเคราะห์หุ้นที่เขามีให้คนโทรหรือ sms เข้ามาถามเกี่ยวกับหุ้นตัวต่างๆที่ตัวเองถืออยู่แล้วก็บอกต้นทุน หลังจากนั้นนักวิเคราห์ก็จะแนะนำว่าถ้าต้นทุนเท่านี้ให้ขายถ้าเท่านี้ให้ซื้อหรือถือ ผมก็จะรู้สึกแปลกใจทุกครั้ง เพราะจริงๆแล้วการที่เราจะซื้อขายหรือถือหุ้นที่เรามีอยู่ ราคาต้นทุนของเรานั้นไม่ควรจะมีส่วนกับการตัดสินใจเลย

ผมอาจจะเคยพูดมาหลายครั้ง แต่ผมก็จะขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าการลงทุนในหุ้นนั้นนอกจากเหตุผลแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั้นก็คืออารมณ์ซึ่งเราต้องพยามควบคุมมันให้ได้และอย่าให้มันมาควบคุมเรา

ถ้าเรารู้ 100% ว่าหุ้นจะขึ้นเราจะซื้อเพิ่มไหม? แน่นอนเราก็คงจะซื้อเพิ่ม
ถ้าเรารู้ 100% ว่าหุ้นจะตกเราจะขายไหม? แน่นอนเราก็คงจะขาย

จะเห็นได้ว่าในทั้งสองกรณีนั้นต้นทุนของเราไม่มีผลกับสิ่งที่เราควรจะทำเลย

แต่เราไม่รู้ 100% นิว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง?

อันนี้ผมเห็นด้วยครับว่าเราไม่มีทางรู้ได้ แต่ถึงต้นทุนจะสูงหรือต่ำเวลาหุ้นขึ้นหรือลงเราก็กำไรหรือขาดทุนเพิ่มขึ้นเท่าๆกันไม่ได้แตกต่างกันเลย หลายๆครั้งเวลาหุ้นลง เราจะเห็นนักวิเคราะห์แนะนำนักลงทุนที่มีต้นทุนต่ำๆว่าให้ถือได้ไม่เป็นไรธุรกิจยังดีอยู่ แต่ถ้าเป็นคนที่มีหุ้นตัวเดียวกันแต่ต้นทุนสูงก็จะบอกว่าให้ cut loss ไปก่อน ในระยะสั้นอาจจะลงต่อ ซึ่งผมรู้สึกว่ามันเป็นการบรรเทาอารมณ์มากกว่าการซื้อขายด้วยเหตุผล ซึ่งผมก็เข้าใจเพราะการที่ port เราจะเขียวน้อยลง 100 บาท นั้นเราจะรู้สึกแย่น้อยกว่าการที่มันจะแดงขึ้น 100 บาทมากพอสมควร

แต่สิ่งที่นักวิเคราะห์ควรจะถามจริงๆแล้วคือ เงินของนักลงทุนตอนนี้อยู่ในหุ้นกี่เปอร์เซ็นต์และมีเงินสดกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะสิ่งนี้ควรจะมีความสำคัญแก่การตัดสินใจว่าจะซื้อ ถือ หรือขายหุ้นที่มีอยู่ เพราะมันจะตัดสินได้ว่าเราจะทำอะไรได้มากแค่ไหนเมื่อเราคาดการณ์ผิด

เนื่องจากเราไม่มีทางรู้ได้ว่าบริษัทที่เรามีหุ้นอยู่จะกิจการดีขึ้นหรือแย่ลง 100% เราก็ควรจะแบ่งเงินสดเก็บไว้มากหรือน้อยตามความมั่นใจของเรา ถ้าเรามั่นใจในกิจการมากก็อาจจะซื้อเพิ่มได้แล้วเหลือเงินสดไว้น้อยหน่อย ถ้าเรามั่นใจไม่มากก็เหลือเงินสดไว้มากหน่อย







No comments:

Post a Comment