หลังจากคราวที่แล้วที่ผมได้คาดเดาเอาไว้ว่าอีกไม่นานน่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ และส่วนที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดน่าจะเป็นทางด้านอสังหาริมทรัพย์และ ธนาคาร ผมก็ได้พยายามไปลองคิดดูว่าแล้วเราจะทำยังไงเพื่อที่เราจะทำกำไรกับตรงนี้
แน่นอนถ้าต้องการทำกำไรมากจริงๆเราอาจจะ Short
หุ้นตัวที่เราคิดว่าจะราคาตกมากๆ ซึ่งหุ้นของ Land &
House อาจจะน่าสนใจสำหรับตรงนี้เพราะเขาทำทั้งทางด้านอสังหาริมทรัพย์และธนาคา
แต่ปัญหาสำหรับวิธีนี้ก็คือการ Short หุ้นนั้นมันมีเวลาหมดอายุ
พูดง่ายๆก็คือเราต้องสามารถคาดเดาได้ว่าหุ้นมันจะตกภายในเวลาไหน
ถ้าหุ้นมันกลับไปตกหลังจากที่ Short ของเราหมดอายุไปแล้วเราก็อาจจะไม่ได้กำไรเลยหรือกาจจะขาดทุนด้วยซ้ำถ้าในช่วงนั้นหุ้นยังขึ้นอยู่
แน่นอนวิธีนี้เป็นวิธีที่ค่อนข้างเสี่ยงเพราะฉะนั้นผมเองก็คงจะไม่ชำนาญพอที่จะเข้าไปทำตรงนี้
แต่อย่างที่ผมได้บอกไปแล้ว
ในระหว่างนี้ที่รอการมาของวิกฤตเศรษฐกิจผมก็กะว่าจะเอางบส่วนน้อยของทั้งหมดที่มีอยู่เข้าไปลงทุนเพื่อพยายามทำกำไรจากการผันผวนของราคาหุ้นในระยะสั้นด้วยการซื้อมาขายไป
แต่มีข้อแม้อยู่ว่าหุ้นตัวที่จะเข้าไปซื้อนั้นต้องได้รับผลกระทบน้อยจากวิกฤตเศรษฐกิจหรือเผลอๆอาจจะได้รับผลดีด้วยซ้ำ
ที่ผมมีข้อแม้นี้ก็เพราะว่าถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจมาตอนจังหวะที่ผมซื้อหุ้นตัวนี้ไปพอดี
ผมก็ต้องการหุ้นที่ผมจะสามารถถือเอาไว้ในระยะยาวได้โดยที่มีโอกาส recover ได้เร็ว
แ้ล้วหุ้นอย่างนี้มันจะมีไหมเนี่ย? ตอนแรกผมก็คิดหนักอยู่นานพอสมควร
หุ้นอะไรบ้างที่จะไปได้ดีในวิกฤตเศรษฐกิจอย่างยุคต้มยำกุ้ง??? โอ้นั่นไงพอคิดอย่างนี้แล้วผมก็เลยนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา
ผมเชื่อว่าทุกๆคนก็ต้องเคยพูดกันขำๆช่วงไหนที่มีเงินน้อยๆก็มักจะบอกกันว่าช่วงนี้ต้องกินมาม่า!!!
นั่นไงสินค้าที่ผมตามหาอยู่ สินค้าที่มาคู่กับภาวะเงินน้อย แถมเป็น Brand ที่แข็งแรง
และถ้าโชคดีอาจมีการขยายไปขายต่างประเทศได้ (จริงๆตอนนี้ก็ขายอยู่แล้วแต่ brand
ยังไม่ติดเท่าไหร่)
เมื่อคิดได้อย่างนี้ผมก็เลยลองไปดูเกี่ยวกับบริษัทที่ทำมาม่า
พบว่าคือบริษัท President Foods หุ้นชื่อย่อ TF อยู่ในตลาด
ซึ่งมีมาม่าเป็นสินค้าหลักซะด้วย แถมดูงบการเงินก็ถือว่าโอเคเมื่อเห็นอย่างนี้ผมว่าผมอาจได้หุ้นหนึ่งตัวแล้วล่ะที่จะใช้ซื้อขายในช่วงนี้
No comments:
Post a Comment